สวัสดีครับช่วงนี้ก็เข้าสู้ฤดูหนาวแล้วนะครับ ปีนี้อากาศเย็นมาไวกว่าปกติเลย และเมื่อถึงฤดูหนาวทีไร ปัญหาที่ตามมาก็คือปัญหาผิวแห้งและแตกใช่ไหมละครับ ผมคิดว่าทางเลือกของทุกคนก็คือการหาครีมหรือโลชั่นทาผิวมาทาใช่ไหมละครับ วันนี้ผมก็เลยได้นำข้อมูลเกร็ดความรู้ดีๆเกี่ยวกับ สารตั้งต้นของผลิตภัณท์ความงามและเครื่องสำอางค์ต่างๆมาฝากกันครับ เผื่อเพื่อนๆที่ได้อ่านจะได้นำไปใช้ในการเลือกซื้อกันนะครับ 1. Mineral Oil (Petrolatum) เป็นสารที่แยกจากการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม มักถูกนำมาใช้ในเครื่องสำอางจำพวกเบบี้ ออย และเครื่องสำอางประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่ในการเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่เพราะเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงอาจเกิดการตกค้างที่ผิวหนัง เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ อาทิ ปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนอุดตัน หรือผิวหนังอักเสบ เป็นต้น 2. Propylene Glycol สารตัวนี้ เป็นสารเคมีที่ใช้เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นของแข็ง ซึ่งในภาคอุตสาหกรรมถูกนำไปใช้ในการทำละลาย อาทิ สี และพลาสติก และถูกนำมาใช้กับเครื่องสำอางในกลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่เก็บรักษาความชุ่มชื้นในเครื่องสำอาง ซึ่งหากใช้ในปริมาณน้อยจะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าผิวแพ้ อาจเกิดการระคายเคืองได้ และถ้าสะสมในปริมาณมาก อาจมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และมีแนวโน้มเป็นสารตั้งต้นให้เกิดโรคมะเร็ง 3. Triethanolamine (TEA) สารเคมีชนิดนี้พบมากในเครื่องสำอางจำพวกบอดี้ โลชั่น แชมพู โฟมโกนหนวด และครีมบำรุงรอบดวงตา กับหน้าที่ในการปรับค่า pH ไม่ให้เป็นกรด-ด่าง มากเกินไป ซึ่งหากร่างกายได้รับในปริมาณน้อยก็ไม่เกิดอันตราย แต่หากสะสมในปริมาณมาก อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ อย่างไรก็ดี หญิงตั้งครรภ์ควรเลี่ยง เพราะเป็นสารเคมีที่มีผลต่อทารกในครรภ์ในช่วงพัฒนาการทางสมอง 4. IPM (Isopropyl Myristate) เป็นสารเคมีที่ใช้กันมากในวงการเครื่องสำอาง กับคุณสมบัติในการเคลือบผิวเพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื้น อย่างไรก็ดี จากการทดลองในสัตว์ พบว่า สารเคมีชนิดนี้ทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคือง และทำให้เกิดปัญหาผิวหนังได้ 5. Polyethylene สารเคมีชนิดนี้ พบมากในเครื่องสำอางจำพวกสครับ เนื่องจากเป็นพลาสติกที่ลื่นมัน ยืดหยุ่นได้ดี จึงใช้เป็นเม็ดสครับผิวได้ แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีจำพวกพลาสติก จึงถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมในของใช้ต่าง ๆ เช่น ขวดใส่สารเคมี ขวดใส่น้ำ บรรจุภัณฑ์ ฉนวนไฟฟ้า หรือแม้แต่เก้าอี้ ซึ่งแม้จะไม่สามารถซึมผ่านสู่ผิวหนังได้ แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และไม่เป็นมิตรกับร่างกาย 6. Imidazolidinyl and Diazoliddinyl Urea สารกันเสียชนิดนี้ถูกนำมาใช้ทั่วไปในกลุ่มเครื่องสำอาง กับหน้าที่ในการกำจัดแบคทีเรีย หรือจุลชีพต่าง ๆ แต่ด้วยการสลายตัวที่ทำให้เกิดสารฟอมาลดีไฮด์ (Formaldehyde) จึงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และระบบหายใจได้ ซึ่งพิษสะสมอาจทำให้การทำงานของเซลล์ร่างกายผิดปกติ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็ง 7. Paraben คือสารกันเสียที่นิยมใช้อย่างมากในกลุ่มเครื่องสำอางจำพวกผิวหนังและเส้นผม รวมถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น 8. SLES (Sodium Laureth Sulfate) คือสารเคมีที่นิยมเติมลงในเครื่องสำอางจำพวกแชมพู หรือเจลอาบน้ำเพื่อทำให้เกิดฟองและลดแรงตึงผิว สามารถพบได้ในแชมพูเกือบทุกประเภท ด้วยผู้บริโภครู้สึกว่าสามารถกำจัดไขมันออกจากผิว และผมอย่างหมดจด แต่แท้จริงแล้ว สารลดแรงตึงชนิดนี้มีส่วนเสียคือ มีฤทธิ์ทำให้กระบวนการป้องกันผิวและดูแลเส้นผมตามธรรมชาติอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการระคายเคือง และหากกระบวนการผลิตมีการปนเปื้อนก็อาจเป็นสารก่อมะเร็งได้ 9. Artificial Color มีเครื่องสำอางจำนวนไม่น้อยที่ใช้สีในการเติมแต่งเพื่อให้เกิดความงาม น่าใช้ บางชนิดเป็นสารเคมีสังเคราะห์ และบางชนิดเป็นสีที่ใช้ในอาหาร (Food grade - ซึ่งค่อนข้างมีความปลอดภัย) อย่างไรก็ดี ย่อมเป็นการปลอดภัยกว่าในการงดการใช้สีที่มาจากการสังเคราะห์ทุกประเภท เนื่องจากอาจมีสารหนัก รวมทั้งสารหนูและสารตะกั่ว อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง 10. Silicone ซิลิโคนมีลักษณะคล้ายยาง มีความยืดหยุ่นสูงและมีอยู่หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทใช้งาน แต่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามอย่างแพร่หลาย โดยในเครื่องสำอางนั้น มักถูกนำมาใช้กับครีมนวดผมเพื่อให้รู้สึกนุ่มลื่น ช่วยเคลือบบำรุงเส้นผมให้ดูเงางาม นุ่มสลวย แต่อาจเกิดการสะสมในตับและต่อมน้ำเหลืองหากใช้ในปริมาณมาก ซึ่งสามารถเป็นตัวเร่งการเกิดเนื้องอกและมะเร็งได้ 11. Petroleum Derivative เป็นสารเคมีที่ได้มาจากการแยกน้ำมันปิโตรเลียม มักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายประเภท อาทิ ครีมรองพื้น โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว เพื่อทำหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื่นผิวโดยการเคลือบผิวไว้ แต่ด้วยความที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ และผ่านกรรมวิธีทางเคมี จึงอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง อุดตันผิว และเกิดสิวได้ และหากเก็บกักสะสม อาจเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของผิว และทำให้ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันในเพศหญิงอ่อนแอ 12. Synthetic Polymer โพลิเมอร์มีสารตั้งต้นจากพลาสติก ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีให้มีความเหนียวนุ่ม ยืดหยุ่น นิยมนำมาทำบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมทั้งเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาทิ ครีมนวดผม หรือเจลแต่งทรงผม ทำหน้าที่หลากหลายขึ้นอยู่กับการใช้งาน อาทิ การเพิ่มเนื้อสัมผัส การเคลือบผิว หรือการเก็บรักษาความชุ่มชื้น อย่างไรก็ตาม มีสารโพลิเมอร์บางชนิดสามารถหาได้จากพืช อาทิ มันสำปะหลัง ข้าวโพด และมะพร้าว ซึ่งเป็นมิตรกับธรรมชาติและเหมาะสมกับร่างกายของเรามากกว่า 13. PEG (Polyethylene Glycol) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนสารเพิ่มความชุ่มชื้น มักถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามจำพวกทำความสะอาดและบำรุงผิว โดยสถาบันเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัตถุในสหรัฐอเมริกา (III) ได้ออกคำเตือนให้หลีกเลี่ยง การใช้สารเคมีชนิดนี้ เพราะระคายเคืองต่อผิวสูง และอาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติในตับและไต และอาจเกิดการปนเปื้อน จากการผลิตซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับและจมูก 14. Quats คือสารชะล้างที่มักนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ขัดล้างต่าง ๆ อาทิ น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาขัดพื้น และนำมาใช้กับเครื่องสำอาง จำพวกแชมพู หรือเจลอาบน้ำทั้งหลาย เพื่อให้รู้สึกถึงการทำความสะอาด ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นสารเคมีรุนแรง จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวเกิดผดผื่น แพ้ และทำลายระบบทางเดินหายใจ หากใช้ในปริมาณสูงและใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผลิตภัณฑ์ที่ดี ควรสกัดมาจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว ผัก หรือผลไม้ ซี่งผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ส่วนมากมีสารเคมีเป็นส่วนประกอบหลักอยู่แทบทุกชนิด เช่น สารกันเสียที่มากเกินไป หรือสารอื่น ๆ ที่เรายังไม่รู้ และเป็นอันตรายต่อผิวหนัง ดังนั้นก่อนซื้อควรทดลองกับผิวบริเวณแขนของตัวเองก่อน ถ้าทาแล้วไม่รู้สึกระคายเคือง หรือไม่มีอาการคัน ก็สามารถใช้ได้ ที่สำคัญ การเลือกซื้อเครื่องสำอาง ไม่ควรซื้อเพราะเห็นคนอื่นใช้แล้วดี แต่ควรดูสภาพผิวของตัวเองด้วยว่า เหมาะสมหรือไม่ อีกอย่างไม่ควรซื้อเกินกำลังของตัวเอง และนอกจากนี้ยังมีสมุนไพรไทย เช่น ขมิ้น ว่านหางจระเข้ สามารถนำมาขัด และบำรุงผิวได้เหมือนกัน โดยไม่มีสารเคมี แถมหาได้ง่าย หรือถ้าจะล้างเครื่องสำอางออก วิธีง่ายๆ ก็คือ ใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ด และล้างน้ำออก ซึ่งได้ผลดีเหมือนกัน ขอบคุณข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์ |
MetrologY @ Biomedical engineerinG - G.4
รวมทุกสิ่งที่คุณอยากรู้ - วิศวกรรมชีวการแพทย์ & โปรแกรมเด็ดๆ ที่คุณไม่ควรพลาด!!
วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
14 สารเคมีช่วยสวย ที่ควรรู้จัก!
วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ปรากฏการณ์เพียโซอิเล็กทริก (piezoelectric effect)
ปรากฎการณ์เพียโซอิเล็กทริกเป็นปรากฏการณ์ที่วัสดุบางชนิด ที่มีโครงผลึกแบบไอออนิกและมีหน่วยเซลล์ที่ไม่สมมาตร มีผลทำให้เกิดอิเล็กทริกไดโพล(electric dipole)ขึ้นเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น barium titanate(BaTiO3) ที่อุณหภูมิมากกว่า 120°C BaTiO3จะมีโครงสร้างผลึกที่สมมาตร แต่เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 120°C ไอออนของ Ti4+ ที่อยู่ตรงกลาง และไอออนของ O2- ที่อยู่ล้อมรอบในหน่วยเซลล์ของ BaTiO3จะเกิดการเหลื่อมกันในทิศตรงกันข้ามเล็กน้อย ทำให้เกิดอิเล็กทริกไดโพลโมเมนต์ (electric dipole moment)
อุณหภูมิ 120 °C นี้จะเรียกว่า อุณหภูมิ Curie ซึ่งเป็นอุณหภูมิวิกฤตที่มีการเปลี่ยนโครงสร้างของ BaTiO3 จากรูปลูกบาศก์ไปเป็นรูป tetragonal
ผลจากการเปลี่ยนโครงสร้างเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 120 °C จะส่งผลให้โครงสร้างของ BaTiO3 เกิดความไม่สมมาตรกัน ทำให้จุดศูนย์กลางประจุ(+) ทั้งหมดภายในแผ่นเซลล์แยกออกจากจุดศูยน์กลางของประจุลบ ทำให้เกิดขั้วไฟฟ้าขึ้น 2 ขั้ว และจากลักษณะดังกล่าว เมื่อใส่แรงกดเข้าไปก็จะเกิดประจุไฟฟ้าบวกและลบขึ้นในโครงสร้างของ BaTiO3 และเมื่อใส่แรงดึง จะเกิดประจุไฟฟ้าที่มีขั้วตรงกันข้าม และเมื่อนำแผ่นเซรามิกส์นี้ไปใส่สนามไฟฟ้าผลึกจะเกิดการยืด และเมื่อกลับทิศสนามไฟฟ้าผลึกจะเกิดการหด เรียกปรากฎการณ์การยืดและหดนี้ว่า piezoelectric
ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ปรากฎการณ์เพียโซอิเล็กทริกของผลึกก็คือ เมื่อให้การเปลี่ยนแปลงของประจุไฟฟ้า (Conversion of electricity) ผ่านเข้าสู่ผลึก ทำให้โมเลกุลผ่านในผลึก เกิดการสั่นสะเทือน (Mechanical vibrations) แล้วปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูง ออกมาสู่ภายนอก และในทางกลับกัน เมื่อคลื่นเสียงกระทบผลึกนี้ ทำให้โมเลกุลภายในเกิดการสั่นสะเทือน แล้วเปลี่ยน ออกมา เป็นการเปลี่ยนแปลงของประจุไฟฟ้าได้ ซึ่งผลึกที่สามารถเกิดปรากฎการณ์เพียโซอิเล็กทริกได้ เช่น ผลึกที่พบในธรรมชาติได้แก่ Quartz ส่วนผลึกสังเคราะห์ ได้แก่ Barium titanate และ Lead irconate titanate
Schematic symbol and electronic model of a piezoelectric sensor
อ้างอิงจาก http://www.mne.eng.psu.ac.th/knowledge/student/ceramic_sensor/piezoelectric1.htm
วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
เซนเซอร์เพียโซ (Piezoelectric sensor)
เซนเซอร์เพียโซ (Piezoelectric sensor)มีใครเคยคุ้นๆหูคำๆนี้บ้างไหมคะ? บางคนอาจจะยังงงๆว่าเจ้าเซนเซอร์ตัวนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไรกันแน่ เดี๋ยวเราจะได้มารู้กันในบทความนี้ค่ะ ^^
นอกจากนี้เซนเซอร์เพียโซยังถูกนำไปใช้กับเครื่องอุลตราซาวด์อีกด้วย หลักการของอุลตราซาวด์ก็คือ เมื่อให้ประจุไฟฟ้าเป็นระยะ ติดๆกัน ไปยังผลึกที่มีคุณสมบัติ Piezoelectric effect ซื่งบรรจุอยู่ในหัวตรวจ (Transducer or Probe) จะทำให้ได้อุลตราซาวด์ออกมาเป็นช่วงๆ (ultrasonic pulses) เข้าสู่ส่วนที่เรานำสัมผัส เมื่อพบรอยต่อของตัวกลาง (Interface) 2 ชนิด ทำให้เกิดการสะท้อน และการหักเห ตลอดแนวทางที่เสียงเดินผ่าน ในตัวกลางต่างชนิดกัน การเกิดการสะท้อนกลับมาสู่หัวตรวจ จะเกิดในเปอร์เซ็นต์และองศาที่แตกต่างกัน ฉะนั้นภาพที่ได้จึงปรากฏบนจอภาพให้เห็น ความแตกต่างของเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นตัวกลางที่เสียงเดินผ่าน จึงทำให้บอกความผิดปกติ เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคได้
วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
นักร้องสุดที่รักของ GU!_T_@R
ชื่อ: นภัทร อินทร์ใจเอื้อ
ชื่อเล่น: กัน
วัน/เดือน/ปี: 23 ตุลาคม 2533
ภูมิลำเนาเดิม: สุพรรณบุรี
ส่วนสูง: 174 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 62 กิโลกรัม
การศึกษา : ปี 1 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
อุปนิสัย : สนุกสนาน ร่าเริง
คติประจำใจ : ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
แนวเพลง : POP
แนวหนัง : บู๊, ผจญภัย
สถานที่เที่ยว : ธรรมชาติ ทะเล,น้ำตก, ต่างจังหวัด
อาหารโปรด : ข้าวเหนียวส้มตำ, ข้าวผัด
ศิลปินคนโปรด : อ๊อฟ-ปองศักดิ์, บอย พีซเมคเกอร์
นักแสดงที่ชื่นชอบ : ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ
ศิลปินที่ประทับใจ : วง MiLD
บดินทร์ เจริญราฎร์ (เป้) - ร้องนำ
กำลังศึกษา ปี 3 คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เจน มโนภินิเวศ (เต่า) - กีตาร์
กำลังศึกษา ปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
พิทวัส ขุนทอง (ขุน) - เบส
กำลังศึกษา ปี 2 คณะวิทยาการการจัดการ สาขานิเทศศาสตร์ การประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ณธีพัฒน์ ประเสริฐมนูกิจ (ทอมท่อม) - คีย์บอร์ด
สำเร็จการศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไพสิฐ คำกลั่น (เป้) - แซกโซโฟน
กำลังศึกษา ปี 3 คณะวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ธงไชย ทิมพูล (ไมค์) - มือกลอง
กำลังศึกษา ปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาจักรกลเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพลงแรกของพวกเขาที่ทำให้วง MiLD เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ คือเพลง "อีกนานไหม" ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่เพราะมากๆค่ะ แถมยังมีความหมายดีอีกด้วย ซึ่งเนื้อเพลงและทำนอง หนุ่มๆทั้งหก เป็นผู้เรียบเรียงและแต่งขึ้นมาเองทั้งหมดค่ะ แถมเพลงนี้ยังมี 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน คือเวอร์ชั่นปกติ และ เปียโนเวอร์ชั่น ซึ่งก็ไพเราะทั้งคู่เลยค่ะ นอกจากนี้ วง MiLD ยังมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง ซึ่งมีชื่ออัลบั้มชื่อเดียวกับวงคือ "MiLD" กับค่าย Nano Records เป็นมินิอัลบั้ม 6 เพลงด้วยกัน คือเพลง อีกนานไหม, Unlovable, รักล้นใจ, เสร็จ, หวานเย็น,บรรยากาศพาไป ซึ่งถ้าใครได้ลองฟังอัลบั้มนี้แล้ว รับรองว่าจะบอกว่า "เพราะทั้งอัลบั้ม ฟังได้ทุกเพลง" จริงๆค่ะ >.< ซึ่งในตอนนี้ วง MiLD ได้ออก single มาใหม่ 2 เพลงได้แก่ เพลง"ผู้ป่วยความจำเสื่อม" และเพลง "เข้าใจ...แต่ทำไม่ได้" ซึ่งกำลังฮิตติดชาร์ท โดนใจหลายๆคนอยู่ในขณะนี้ค่ะ
ภาพยนตร์ที่ประทับใจ : The Day After Tomorrow
วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
ศิลปินของPING
ศิลปินที่ผมได้เลือกคือนักแสดงสาว ซูฉีเธอมีความพยายามมากในการที่จะไปให้ถึงความฝันของตัวเอง ซูฉีเธอเป็นนักแสดงอันดับต้นๆของเอเชียเธอใช้ชื่ออังกฤษว่า Fanny ตั้งแต่เด็กเธอมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นดาราและก็ด้วยความอุตสาหะที่อยากจะเป็นให้ได้และเพื่อเพิ่มจุดสนใจ เธอก็เริ่มถ่ายภาพนู๊ดลงในนิตยสารหลายๆฉบับรวมทั้งอัลบัมรูปด้วย และนั้นก้อทำให้โอกาสของเธอมาถึงเมื่อผู้สร้างหนังชาวฮ่องกง แมนเฟร็ด หว่อง (ต่อมาได้กลายมาเป็นผู้จัดการของเธอ) เห็นภาพของ ซูฉีในอัลบัมรูปนู๊ดของเธอ เขาเรียกเธอให้มาทดสอบบทในหนังเรื่องแรกที่ชื่อว่า Sex and Zen 2 ในปี พ.ศ. 2540นี้เป็นหนังเรื่องแรกขแงเธอก็ว่าได้ หนังเรื่องนี้นำเสนอฉากนู๊ดไว้หลายฉากแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ยกเว้นแต่ว่ามันได้เบิกทางสู่อาชีพนักแสดงให้กับเธอโดยสิ้นเชิง ความโด่งดังของเธอเริ่มขึ้นในหนังเรื่อง Viva Erotica ซึ่งทำให้คนดูประหลาดใจไปกับเรื่องราวที่มีแง่คิดลึกซึ้งและการแสดงของเธอก็ทำให้ทุกๆคนก็เริ่มจะจดจำเธอได้เมื่อหนังเรื่องนี้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ Honk Kong Film Awards ใน ปี พ.ศ. 2541 ด้วยการเสนอชื่อเข้าชิงถึงแปดรางวัล สองรางวัลของ ซูฉี และเธอก็คว้ารางวัลมาได้ทั้งสองรางวัลในสาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและดาราสมทบยอดเยี่ยม ซึ่งเธอรับรางวัลไปพร้อมกับน้ำตาแห่งความปิติ หลายปีต่อมาเธอก็มีผลงานในฐานะนักแสดงหญิงกับหนังที่มีมากกว่า 40 เรื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เธอกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง เธอปรากฏตัวไปทั่วเอเชียไม่ว่าจะเป็นโฆษณาสินค้า มิวสิกวีดีโอ นิตยสาร และอีกมากมาย
ข้อมูลทั่วไป
การศึกษา : มัธยมปลาย
รักครั้งแรก : 16 ปี
จูบครั้งแรก : 16 ปี
งานแรกในวงการ : นางแบบ
ภาพยนตร์เรื่องแรก : Sex and Zen II (玉圃团)
ส่วนที่ชอบที่สุดในร่างกาย : ทุกส่วน
ครอบครัว : พ่อ (ข้าราชการ) แม่ (แม่บ้าน) น้องชาย (กำลังเรียน)
รางวัล
1.รางวัลม้าทองคำในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมและสาขานักแสดงหญิงดาวรุ่งดวงใหม่ จากภาพยนตร์เรื่อง Viva Erotica (1996)
2.รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Portland Street Blues (1998)
3.รางวัล Golden Horse Award และ Hong Kong Film Award ในปี พ.ศ. 2541 และ 2542
เห็นไหมครับว่าผู้หญิงตัวเล็กที่มีความฝันตั้งแต่ยังเด็ก แล้วก็ที่พยายามเข้าหาความฝันของตัวเองทีล่ะเก้าทีล่ะเก้าต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหมกว่าที่จะได้ไปถึงจุดหมายของความฝันของตนเอง แล้วผู้อ่านล่ะครับมีความฝันของตัวเองหรือยัง ? แล้วพยามยามทีจะเข้าใกล้ความฝันของตัวเองทีล่ะเก้าหรือนักแสดงหญิงคนนี้บ้างหรือเปล่าครับ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้ทำให้ผู้อ่านทุกท่านหาความฝันของตัวเองให้เจอและพยายามที่จะเข้าใกล้ความฝันนั้นให้มากที่สุดครับ
แหล่งอ้างอิง
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9480000070261
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%89%E0%B8%B5#.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.95.E0.B8.B4